จากภาพรวมเศรษฐกิจที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เทคโนโลยีถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนากลยุทธ์และแผนงานของทุกองค์กรให้ขับเคลื่อนอย่างมีประสิทธิภาพ องค์กรต่างๆ ยังคงให้ความสำคัญในการลงทุนเกี่ยวกับเทคโนโลยีในการเพิ่มจุดแข็งและโอกาสทางการแข่งขัน บริษัทยังคงมุ่งมั่นนำเสนอสินค้าและบริการด้านไอทีเพื่อตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทัลอย่างครบวงจร

ในปี 2566 บริษัทมีรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการ จำนวน 9,479 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 จาก รายได้กลุ่มผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ และรายได้จากการให้บริการที่เพิ่มขึ้น ส่วนรายได้กลุ่มผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์และรายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์วัสดุสิ้นเปลืองลดลง บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นร้อยละ 14.1 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 ประกอบกับในปี 2565 บริษัทมีผลขาดทุนอื่น 25 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มาจากขาดทุนจากสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า ส่วนในปีนี้มีผลเป็นกำไรอื่น 12 ล้านบาท จึงส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 285 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 16

รายได้

บริษัทมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการ แบ่งตามกลุ่มผลิตภัณฑ์ ดังนี้

  • รายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์ จำนวน 2,412 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 25 ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 16 มาจากการขายอุปกรณ์ประมวลผล (Server) และคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก (Notebook) ลดลง เนื่องจากปีก่อนมีรายได้จากลูกค้ารายใหญ่
  • รายได้จากผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ จำนวน 3,739 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 39 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 10 รายได้หลักยังคงเป็นผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ของ Microsoft โดยมีรายได้เพิ่มขึ้นค่อนข้างมากเนื่องจากหลายบริษัทมีการลงทุนเพิ่มในปีนี้
  • รายได้จากผลิตภัณฑ์วัสดุสิ้นเปลือง จำนวน 1,485 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 16 ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนร้อยละ 3 ซึ่งเกิดจากแนวโน้มธุรกิจที่มีการใช้กระดาษลดลงและการแข่งขันด้านราคาที่สูงขึ้น
  • รายได้จากการให้บริการ จำนวน 1,843 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 20 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 17 รายได้จากการให้บริการหลักๆ ของบริษัทส่วนใหญ่สามารถทำรายได้เพิ่มขึ้น รวมทั้งรายได้จากกการให้บริการ SuperApp ที่บริษัทเป็นเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาเริ่มมีรายได้ในส่วนนี้เพิ่มมากขึ้น

อัตรากำไรขั้นต้นร้อยละ 14.1 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่เท่ากับร้อยละ 12.8 เนื่องจากรายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์และรายได้จากผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์มีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น รวมถึงรายได้จากการให้บริการที่สามารถทำรายได้เพิ่มขึ้นโดยเป็นรายได้ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงว่ารายได้ประเภทอื่น

ค่าใช้จ่าย

ในส่วนของค่าใช้จ่าย ประกอบด้วย

  • ค่าใช้จ่ายขายและบริหารเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 98 ล้านบาท เมื่อเทียบสัดส่วนต่อรายได้จากการขายสินค้าและบริการในปี 2566 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 11.0 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2565 ที่มีสัดส่วนร้อยละ 10.1 โดยมีค่าใช้จ่ายในการขายและค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น ซึ่งค่าใช้จ่ายในการขายที่เพิ่มขึ้นสอดคล้องกับรายได้ที่เพิ่มสูงขึ้น ส่วนค่าใช้จ่ายในการบริหารส่วนใหญ่เกิดจากค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานที่เพิ่มขึ้น
  • ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3 ล้านบาท เมื่อเทียบสัดส่วนต่อรายได้จากการขายสินค้าและบริการในปี 2566 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.14 เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่มีสัดส่วนร้อยละ 0.10
  • ภาษีเงินได้เพิ่มขึ้น 8 ล้านบาท เนื่องจากในปี 2566 บริษัทมีกำไรก่อนภาษีเงินได้เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบสัดส่วนต่อรายได้จากการขายสินค้าและบริการในปี 2566 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.7 เท่ากับปี 2565

บริษัทมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่จำนวน 285 ล้านบาท เทียบกับปี 2565 จำนวน 245 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 40 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 16

ด้านอัตราส่วนแสดงความสามารถในการทำกำไร บริษัทมีอัตรากำไรสุทธิคิดเป็นร้อยละ 3.0 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 2.6 ส่วนของอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นมีอัตราร้อยละ 13.3 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ซึ่งมีอัตราร้อยละ 12.1

สินทรัพย์

ปี 2566 บริษัทมีสินทรัพย์รวมจำนวน 3,778 ล้านบาท ลดลง 789 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2565 สินทรัพย์รวมประกอบด้วยสินทรัพย์หมุนเวียนจำนวน 2,787 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 74 ต่อสินทรัพย์รวม และสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนจำนวน 991 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 26 ต่อสินทรัพย์รวม สาเหตุที่ทำให้สินทรัพย์รวมลดลงเกิดจาก

  • สินทรัพย์หมุนเวียนจำนวน 2,787 ล้านบาท ลดลง 885 ล้านบาท เกิดจากลูกหนี้การค้าและลูกหนี้หมุนเวียนอื่นลดลง 489 ล้านบาท สินค้าคงเหลือลดลง 310 ล้านบาท สินทรัพย์ที่เกิดจากสัญญา-หมุนเวียนลดลง 82 ล้านบาท สินทรัพย์ทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุนลดลง 56 ล้านบาท และลูกหนี้ตามสัญญาเช่าที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปีลดลง 15 ล้านบาท ส่วนเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดเพิ่มขึ้น 63 ล้านบาท และสินทรัพย์หมุนเวียนอื่นเพิ่มขึ้น 4 ล้านบาท

ลูกหนี้การค้าและลูกหนี้หมุนเวียนอื่น

บริษัทมียอดลูกหนี้การค้าหลังหักค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญปี 2566 เท่ากับ 1,184 ล้านบาท ลดลง 545 ล้านบาท ลูกหนี้อัตราร้อยละ 73 เป็นลูกหนี้ที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระเงิน ส่วนลูกหนี้ที่เหลืออัตราร้อยละ 27 เป็นลูกหนี้ที่อยู่ระหว่างการติดตามชำระเงิน โดยมีลูกหนี้เกินกำหนดชำระน้อยกว่า 3 เดือนจำนวน 263 ล้านบาท ลูกหนี้ที่เกินกำหนดชำระมากกว่า 1 ปี จำนวนเงิน 2 ล้านบาท และมีลูกหนี้ที่อยู่ระหว่างการดำเนินตามกฎหมาย 62 ล้านบาท ซึ่งเป็นลูกหนี้ที่อยู่ระหว่างการผ่อนชำระและติดตามทวงถาม บริษัทมีการตั้งค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น เท่ากับ 19 ล้านบาท คิดเป็นอัตราร้อยละ 1.6 ของลูกหนี้ทั้งหมด บริษัทมีระยะเวลาเก็บหนี้เฉลี่ย ในปี 2566 เท่ากับ 57 วัน ซึ่งตามนโยบายบริษัทให้เครติดเทอมลูกค้าส่วนใหญ่ในการชำระค่าสินค้าอยู่ที่ประมาณ 30-60 วัน

ลูกหนี้หมุนเวียนอื่นปี 2566 เท่ากับ 253 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่ได้แก่ ค่าใช้จ่ายจ่ายล่วงหน้า

สินค้าคงเหลือ

บริษัทมีสินค้าคงเหลือหลังหักค่าเผื่อการลดมูลค่าของสินค้าปี 2566 เท่ากับ 600 ล้านบาท ลดลง 310 ล้านบาท สินค้าคงเหลือของบริษัทจะแบ่งออกได้เป็นสินค้าสำเร็จรูป งานโครงการระหว่างทำ และ สินค้าระหว่างทาง ระยะเวลาการขายเฉลี่ย 28 วัน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการบริหารจัดการในการควบคุมและป้องกันความเสี่ยงของบริษัทฯ

สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนจำนวน 991 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 95 ล้านบาท เกิดจากภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายเพิ่มขึ้น 46 ล้านบาท ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์เพิ่มขึ้น 22 ล้านบาท สินทรัพย์ไม่มีตัวตนอื่นเพิ่มขึ้น 20 ล้านบาท ลูกหนี้ตามสัญญาเช่าเพิ่มขึ้น 18 ล้านบาท เงินลงทุนในบริษัทร่วมเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาท และสินทรัพย์ที่เกิดจากสัญญา-ไม่หมุนเวียนเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาท ส่วนเงินฝากสถาบันการเงินที่ใช้เป็นหลักประกันลดลง 7 ล้านบาท สินทรัพย์สิทธิการใช้ลดลง 5 ล้านบาท และสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชีลดลง 1 ล้านบาท

กระแสเงินสด

ณ 31 ธันวาคม 2566 บริษัทมียอดเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดเท่ากับ 152 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63 ล้านบาท โดยเกิดจาก

  • เงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมดำเนินงานของบริษัท จำนวน 778 ล้านบาท โดยบริษัทมีกำไรสำหรับปีก่อนการเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์และหนี้สินดำเนินงานจำนวน 431 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของสินทรัพย์ที่ลดลง ได้แก่ ลูกหนี้การค้าและลูกหนี้หมุนเวียนอื่น 481 ล้านบาท สินค้าคงเหลือ 280 ล้านบาท สินทรัพย์ที่เกิดจากสัญญา 81 ล้านบาทจากการเปลี่ยนแปลงของสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น 4 ล้านบาท ลูกหนี้ตามสัญญาเช่าการเงิน 3 ล้านบาท ลดลงจากการเปลี่ยนแปลงของหนี้สินที่ลดลงได้แก่ เจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้หมุนเวียนอื่น 384 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของหนี้สินที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ หนี้สินที่เกิดจากสัญญา 14 ล้านบาท หนี้สินไม่หมุนเวียนอื่น 4 ล้านบาท ทำให้บริษัทมีเงินสดได้มาจากกิจกรรมดำเนินงาน 899 ล้านบาท จ่ายภาษีเงินได้สุทธิ 114 ล้านบาท และบริษัทมีจ่ายผลประโยชน์พนักงาน 8 ล้านบาท
  • เงินสดสุทธิได้มาจากกิจกรรมการลงทุนของบริษัท จำนวน 5 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีเงินสดรับจากการจำหน่ายตราสารทุนหรือตราสารหนี้ของกิจการอื่นสุทธิ 59 ล้านบาท ดอกเบี้ยรับ 9 ล้านบาท เงินสดรับจากเงินฝากค้ำประกัน 7 ล้านบาท เงินปันผลรับ 1 ล้านบาทและจ่ายซื้อทรัพย์สินถาวรและสินทรัพย์ไม่มีตัวตน 71 ล้านบาท
  • เงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมการจัดหาเงินของบริษัท มีจำนวน 720 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีจ่ายชำระคืนเงินกู้ยืมระยะสั้นสุทธิ 572 ล้านบาท จ่ายเงินปันผล 144 ล้านบาท จ่ายชำระคืนหนี้สินตามสัญญาเช่า 19 ล้านบาท จ่ายต้นทุนทางการเงิน 13 ล้านบาท และมีเงินสดรับจากการขายและเช่ากลับคืน 28 ล้านบาท

อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ

ณ 31 ธันวาคม 2566 บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น เท่ากับ 0.7 เท่า ลดลงจากปี 2565 ที่เท่ากับ 1.2 เท่า โดยมีหนี้สินลดลงซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน และเจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้อื่นที่ลดลง ขณะเดียวกันส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นจากกำไรสุทธิของปี อย่างไรก็ตามหนี้สินทั้งหมดเป็นหนี้สินที่เกิดจากการดำเนินงานตามปกติของบริษัท

อัตราส่วนความสามารถชำระภาระผูกพันในปี 2566 เท่ากับ 9.8 เท่า เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่เท่ากับ 0.6 เท่า โดยบริษัทมีกำไรก่อนดอกเบี้ยภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 51 ล้านบาท แต่ทางด้านหนี้สินระยะสั้นที่มีภาระดอกเบี้ยลดลง 568 ล้านบาท จากเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงินลดลง 572 ล้านบาท และส่วนหนี้สินตามสัญญาเช่าที่ถึงกำหนดชำระภายใน 1 ปี เพิ่มขึ้น 9 ล้านบาท

อัตราส่วนสภาพคล่องของบริษัทปี 2566 เท่ากับ 2.2 เท่า เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่เท่ากับ 1.6 เท่า เกิดจากเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงินและเจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้หมุนเวียนอื่นลดลง โดยมีระยะเวลาชำระหนี้เพิ่มขึ้นจาก 42 วัน เป็น 49 วัน ส่วนลูกหนี้การค้าและลูกหนี้หมุนเวียนอื่น และสินค้าคงเหลือลดลงจากปีก่อน มีระยะเวลาเก็บหนี้เฉลี่ยลดลงจาก 60 วัน เหลือ 57 วัน ส่วนระยะเวลาการขายสินค้าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 25 วัน เป็น 28 วัน ทางด้านอัตราส่วนสภาพคล่องหมุนเร็วปี 2566 เท่ากับ 1 เท่า เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่เท่ากับ 0.8 เท่า

หนี้สิน

หนี้สินรวมปี 2566 เท่ากับ 1,562 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 931 ล้านบาท หนี้สินรวมประกอบด้วยหนี้สินหมุนเวียนจำนวน 1,277 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 82 ต่อหนี้สินรวม และหนี้สินไม่หมุนเวียนจำนวน 284 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 18 ต่อหนี้สินรวม สาเหตุที่ทำให้หนี้สินรวมลดลงเกิดจาก

  • หนี้สินหมุนเวียนจำนวน 1,277 ล้านบาท ลดลง 996 ล้านบาท เกิดจากเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงินลดลง 572 ล้านบาท เจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้หมุนเวียนอื่นลดลง 395 ล้านบาท โดยมีเจ้าหนี้การค้าเท่ากับ 889 ล้านบาท ลดลง 399 ล้านบาท ส่วนเจ้าหนี้หมุนเวียนอื่นมีจำนวนเท่ากับ 195 ล้านบาท ลดลง 4 ล้านบาท ประกอบด้วยค่าใช้จ่ายค้างจ่าย และเงินมัดจำ หนี้สินที่เกิดจากสัญญา – หมุนเวียนลดลง 34 ล้านบาท หนี้สินทางการเงินหมุนเวียนลดลง 12 ล้านบาท และภาษีเงินได้นิติบุคคลค้างจ่ายลดลง 3 ล้านบาท ส่วนทางด้านส่วนของหนี้สินตามสัญญาเช่าที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปีเพิ่มขึ้น 9 ล้านบาท ประมาณการหนี้สินหมุนเวียนสำหรับผลประโยชน์พนักงานเพิ่มขึ้น 8 ล้านบาท และเงินกู้ยืมระยะสั้นจากบริษัทอื่นเพิ่มขึ้น 4 ล้านบาท
  • หนี้สินไม่หมุนเวียนจำนวน 284 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65 ล้านบาท เกิดจากหนี้สินที่เกิดจากสัญญา – ไม่หมุนเวียน เพิ่มขึ้น 48 ล้านบาท หนี้สินตามสัญญาเช่าเพิ่มขึ้น 8 ล้านบาท หนี้สินภาษีเงินได้รอการตัดบัญชีเพิ่มขึ้น 4 ล้านบาท หนี้สินไม่หมุนเวียนอื่นเพิ่มขึ้น 4 ล้านบาท และประมาณการหนี้สินไม่หมุนเวียนสำหรับผลประโยชน์พนักงานเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาท

ส่วนของผู้ถือหุ้น

ส่วนของผู้ถือหุ้นรวมปี 2566 เท่ากับ 2,216 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 141 ล้านบาท เนื่องจากมีกำไรสุทธิในปี 2566 จำนวน 285 ล้านบาท และมีการจ่ายเงินปันผล ในอัตราหุ้นละ 0.40 บาท รวมเป็นเงิน 144 ล้านบาท

บริษัทได้ทำสัญญาเช่าดำเนินงาน ดังนี้:

  • สัญญาเช่าและค่าบริการที่เกี่ยวข้อง มีระยะเวลา 1 – 5 ปี ซึ่งจะสิ้นสุดสัญญาในปี 2569 สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2566 และ 2565 กลุ่มบริษัทได้บันทึกค่าใช้จ่ายตามสัญญาเช่าดำเนินงานและสัญญาให้บริการที่ยกเลิกไม่ได้ในงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จรวมจำนวน 5.70 ล้านบาท และบริษัทได้บันทึกค่าใช้จ่ายตามสัญญาเช่าดำเนินงานและสัญญาให้บริการที่ยกเลิกไม่ได้ในงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จเฉพาะกิจการจำนวน 5.70 ล้านบาท

บริษัทได้เปิดเผยข้อมูลไว้แล้วในหมายเหตุประกอบงบการเงิน ข้อ 35 ของงบการเงินปี 2566